ฟุตบอลเอเชียนคัพสำหรับผู้ที่ชื่นชอบชัยชนะ
ในการแข่งขันทุกคนย่อมต้องมุ่งเพื่อชัยชนะกันทั้งนั้น โดยเฉพาะในการแข่งฟุตบอลที่ความมุ่งมั่นที่จะชนะนั้น แสดงออกมาอย่างชัดเจน มีท่าทางเฉพาะของผู้ชนะที่กลายมาเป็นท่านิยมของหลายคน การตะโกน การเต้น การส่งเสียงเชียร์ และการแสดงความยินดีกันทั่วสนามแบบสุด ๆ ความมุ่งมั่นที่จะได้มาเพื่อชัยชนะมาจากการมีใจรักในฟุตบอลอย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถดึงศักยภาพของตนเองออกมาเล่นได้อย่างเต็มที่ มีการต่อสู้กันในสนามอย่างไม่ลดละ ไม่ท้อถอย มุ่งมั่นเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะในการแข่งขัน สิ่งเหล่านี้ทำให้การแข่งขันฟุตบอลเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์
ด้วยความไม่ยอมแพ้ในลีกเอเชียทั้งหมดพร้อมกับการมีใจรักในฟุตบอลทำให้ผู้เล่นสามารถกลับมาทำผลงานได้ใหม่ อย่างการแจ้งเกิดของ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่คว้าตำแหน่ง “แมนออฟเดอะแมทซ์” (Man of the match) จากนัดล่าสุดที่ลงแข่งกับ คองโก และ ยูเออี และกลายเป็นนักเตะไทยที่ยิงประตูได้มากที่สุดในลีก
การพยายามพัฒนาและหาวิธีการต่าง ๆ มาใช้เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ด้วยเงื่อนไข “เล่นเพื่อไม่แพ้” ทำให้ทีมช้างศึกของไทยภายใต้การนำทีมของ นิชิโนะ ที่นำเทคนิคเพรสซิ่ง ซึ่งทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ได้ใช้จนประสบความสำเร็จมาแล้ว มาใช้กับทีมไทยในเอเชียนคัพ 2019 ด้วยการเล่นแบบเพรสซิ่งสูง แดนบน อย่างพร้อมเพรียงกันทั้งทีม ทำให้ไทยพลิกมาเป็นฝ่ายชนะยูเออี ด้วยคะแนน 2-1
การได้มาซึ่งชัยชนะที่มุ่งมั่นในการแข่งฟุตบอลจะทำให้กระแสฟุตบอลไทยฟีเวอร์มีความรุนแรงมากขึ้น คนเข้าสนามเชียร์กันมากขึ้น เงินสะพัด ทั้งเงินรางวัลและเงินอัดฉีดก็เพิ่มขึ้น ได้รับการยกระดับ ถูกจัดให้อยู่ในอันดับสูงขึ้นของฟีฟ่า (FIFA Ranking) ทำให้ทีมเก่ง ๆ ระดับสูง ๆ อยากมาแข่งด้วย ทำให้นักเตะพัฒนาฝีมือฝีเท้าได้ดี มีโอกาสเพิ่มขึ้นในการไปสู่บอลโลก