ต้องยอมรับกันอย่างจริงจังว่า “ฟุตบอล” คือหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน มีการฝึกสอนอย่างกว้างขวางและมีทีมฟุตบอลมากมายทั้งระดับท้องถิ่น ระดับจังหวัด และระดับประเทศ แม้ลีกฟุตบอลในประเทศและทีมชาติอาจจะมีช่วงที่ถดถอยไปบ้าง แต่ยุครุ่งเรืองของฟุตบอลไทยและนักเตะชาวไทยนั้นมีมากมายเหลือเกิน ในปัจจุบันนี้ นอกจากไทยแลนด์ของเราจะส่งออกนักเตะเก่งๆ ไปค้าแข้งที่ลีกทั้งเล็กและใหญ่ในต่างประเทศแล้ว ทีมฟุตบอลในไทยลีกเอง ก็ยังสามารถดึงตัวนักเตะจากต่างประเทศและนักเตะฝีเท้าเทพจากต่างทีม ที่มีค่าตัวสูงลิบลิ่วเข้ามาร่วมทีมได้อีกด้วย วันนี้เราจะมาดูกันว่า ทีมใดบ้างในไทยลีกที่มีผู้เล่นระดับท็อปราคาแพงรวมอยู่ในทีมมากที่สุดติดอันดับท็อป 10 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทีมฟุตบอลไทยที่มีนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในไทย
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี จบที่อันดับ 8 ในไทยลีกฤดูกาล 2019 และรองแชมป์เอฟเอคัพ 2019 มูลค่ารวมของทีมอยู่ที่กว่า 148 ล้านบาท นักเตะที่มีมูลค่ามากที่สุดในทีมราชันมังกรนี้คือ อดีตนักเตะปารีแซ็ง-แฌร์แม็งสัญชาติฝรั่งเศส อียานิก บอลี ที่เพิ่งย้ายจากสโมสรโคโลราโด ราปิดส์ ในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยค่าตัว 21 ล้านบาท มาร่วมทีมราชบุรีเมื่อปลายปี 2018 โดยเมื่อย้ายมาแล้ว บอลีก็ได้โชว์ฟอร์มเทพทันทีไม่ทำให้แฟนฟุตบอลต้องรอนาน ด้วยการทำแฮตทริกได้ในนัดเปิดสนามเจอกับตราด ทำให้ทีมราชบุรีเอาชนะไปได้ 3-2 และนอกจากบอลีแล้ว ราชันมังกรยังมีนักเตะมูลค่าสูงอีก 2 ราย นั่นคือ ยู จุน-ซู กองกลางตัวรับชาวเกาหลีใต้ที่ยืมตัวมาจากโพฮัง สตีลเลอร์ส ด้วยค่าตัว 17 ล้านบาท และ ฆาบิเอร์ ปาติญโญ กองหน้าชาวสเปน-ฟิลิปปินส์ที่ยืมตัวมาจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 17 ล้านบาทเช่นกัน
สุพรรณบุรี เอฟซี
ในฤดูกาล 2019 ที่เพิ่งสิ้นสุดไปนี้ถือเป็นฤดูกาลที่น่าลุ้นใจหายใจคว่ำอยู่ไม่น้อย เมื่อทีมสุพรรณบุรี เอฟซี หรือทีมช้างศึกยุทธหัตถี ทำผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจนัก ร่วงไปอยู่อันดับที่ 14 จากทั้งหมด 16 ทีม เกือบต้องตกชั้นไปอยู่ไทยลีก 2 แต่โชคยังเข้าข้าง เนื่องจากทีมพีทีที ระยอง ได้ออกมาประกาศขอพักทีมในฤดูกาลหน้า จึงทำให้จากปกติทีมที่ต้องตกชั้นจะต้องมี 3 ทีมตามกฎระเบียบของไทยลีก ในปีนี้จึงมีทีมตกชั้นเพียง 2 ทีมเท่านั้น สุพรรณบุรี เอฟซี จึงรอดพ้นมาได้อย่างหวุดหวิด ทั้งนี้ ทีมช้างศึกมีผู้เล่นค่าตัวสูงอยู่หลายราย โดยเฉพาะ 2 หัวหอกชาวบราซิล เดลาโตรี ที่ย้ายจากมาอาโปเอล ทีมในลีกไซปรัส และ เคลย์ตง ซิลวา ที่ย้ายจากเชียงราย ยูไนเต็ด เข้ามาอยู่ทีมช้างศึกด้วยค่าตัว 24 ล้านเท่ากัน ทำให้มูลค่ารวมของทีมสุพรรณบุรี เอฟซี นั้นอยู่ที่ราวๆ 151 ล้านบาท
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
สโมสรปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำผลงานในปี 2019 ได้ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกในระยะเวลา 9 ปีที่สโมสรไม่ได้ถ้วยแชมป์ในรายการแข่งใหญ่ใดๆ เลย แต่ก็ไม่ถือว่าปิดฤดูกาลแบบมือเปล่า เนื่องจากยังสามารถคว้าถ้วยรางวัลมาได้หนึ่งรายการ นั่นคือการคว้าแชมป์ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพเป็นครั้งแรกของทีม โดยทีมบุรีรัมย์มีมูลค่าผู้เล่นรวมประมาณ 213 ล้านบาท นาเซอร์ บาราซีเตอ กองกลางตัวรุกและกองหน้าชาวดัตช์ที่เคยค้าแข้งอยู่ในสโมสรระดับโลกอย่าง อาร์เซนอลและดาร์บีเคาน์ตี คือผู้เล่นที่ค่าตัวแพงที่สุดของทีมในมูลค่า 28 ล้านบาท ตามมาด้วย อันเดรส ตุญเญซ กองหลังชาวเวเนซุเอลา และ ราสมุส จอห์นสัน กองหน้าชาวสวีเดน ทั้งคู่มีมูลค่า 21 ล้านบาท และยังมี ฮาจิเมะ โฮโซไง กองหลังและกองกลางตัวรับชาวญี่ปุ่นที่มีค่าตัว 17 ล้านบาท ทั้งนี้ สโมสรปราสาทสายฟ้าอาจจะมีมูลค่าผู้เล่นในทีมเพิ่มสูงขึ้นได้อีก เนื่องจากมีข่าวว่ากำลังมีการเจรจาขอซื้อตัว อดัม เลอ ฟอนเดร กองหน้าชาวอังกฤษที่กำลังเล่นให้กับทีมซิดนีย์อยู่ด้วย
การท่าเรือ เอฟซี
ติดอันดับ 3 ทีมที่มีผู้เล่นรวมมูลค่าแพงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยมูลค่าทีมรวม 253 ล้านบาท ทีมสิงห์เจ้าท่า มี ดราแกน บอสโควิช กองหน้าและกองกลางตัวรุกชาวมอนเตเนโกร ผู้เคยรั้งตำแหน่งผู้ทำประตูสูงสุดในไทยลีกฤดูกาล 2017 และได้รับรางวัลดาวซัลโวไทยลีกจาก เอฟเอ ไทยแลนด์ อวอร์ด เมื่อครั้งยังค้าแข้งอยู่กับแบงค็อก ยูไนเต็ด โดยบอสโควิชได้ย้ายจากแบงค็อกมาอยู่กับ<a href=”https://is.gd/8rfEzf”>การท่าเรือ เอฟซี</a> ด้วยค่าตัวเกือบ 25 ล้านบาท นอกจากนี้ การท่าเรือ เอฟซี ยังมี เซร์ฆิโอ ซัวเรซ กองกลางชาวสเปน มูลค่า 21 ล้านบาทอีกคนหนึ่งด้วย โดยในฤดูกาลล่าสุดนี้ ทีมการท่าเรือ เอฟซี สามารถคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครองได้เป็นครั้งที่สองของสโมสร และรั้งอันดับที่ 3 ในตารางไทยลีก
ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด
เริ่มต้นก่อตั้งสโมสรด้วยการใช้ชื่อสโมสรมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยมีผู้เล่นเป็นนักศึกษาและศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย เคยได้แชมป์ไทยลีกดีวิชั่น 1 และไทยพรีเมียร์ลีก ต่อมาได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกรุงเทพมหานครเปลี่ยนชื่อเป็น สโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด ในปี 2009 และเมื่อกลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เข้ามาถือหุ้นใหญ่เพื่อสนับสนุนการพัฒนากีฬาฟุตบอลให้กว้างไกลยิ่งขึ้น สโมสรจึงเปลี่ยนชื่อเป็น <a href=”https://is.gd/6VMwJT”>ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด</a> และมีการจัดตั้งสถาบันสอนฟุตบอลขึ้น รวมทั้งเริ่มดึงนักเตะต่างชาติเข้ามาร่วมทีม โดยในปัจจุบันนี้ ทีมแข้งเทพมีมูลค่ารวมกว่า 263 ล้านบาท มีกองหน้าชาวเอลซัลวาดอร์ เนลซอน โบนิยา จากทีมสุโขทัย กองหน้าชาวญี่ปุ่น ไมค์ ฮาเวนนาร์ จากทีมวิสเซล โคเบะ และ วังเดร์ ลูอิส กองกลางตัวรุกชาวบราซิล จากเชียงรายยูไนเต็ด นักเตะทั้งสามมีมูลค่ารายละ 28 ล้านบาท และยังมีนักเตะชาวไทยชื่อดังอีกมากมายร่วมทีม โดยในฤดูกาล 2019 นี้ ทีมทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด จบที่อันดับที่ 4 ในตารางไทยลีก
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
และแล้วก็มาถึงทีมที่มีผู้เล่นรวมมูลค่าสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอันดับ 1 ได้แก่ ทีมกิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เริ่มประสบความสำเร็จสูงสุดในช่วงปี 2007 โดยได้แชมป์ลีกดิวิชั่น 2 ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเตะในดิวิชั่น 1 ต่อมาในปี 2008 ก็ได้แชมป์ลีกดิวิชั่น 1 และเมื่อปี 2009 ได้เลื่อนขึ้นไปแข่งขันในไทยลีกเป็นครั้งแรกซึ่งก็โชว์ความเทพ คว้าแชมป์ไทยลีกมาครองได้สำเร็จ นับว่าเป็นทีมแรกที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลลีก 3 ลีกของไทยได้ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น
ทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มีมูลค่าผู้เล่นรวมแล้วเป็นจำนวนสูงถึง 276 ล้านบาท มีนักเตะราคาแพงอัดแน่นอยู่ในทีมมากมาย ตั้งแต่ เอเบร์ชี กองหน้าและกองกลางตัวรุกชาวบราซิลที่เคยค้าแข้งให้กับราชบุรี มิตรผล ก่อนที่จะย้ายไปทีมอัลซาบา และย้ายกลับมาเตะในไทยลีกอีกครั้งกับกิเลนผยอง ด้วยสนนค่าตัวสูงลิบลิ่ว 35 ล้านบาท และกัปตันทีม เจ้ามุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา ที่เคยถูกยืมตัวไปเล่นให้แก่ทีมซานเฟรซ ฮิโรชิมะ ที่เจลีก ประเทศญี่ปุ่น และทีมอูเด อัลเมริอา ทีมในลาลิกา ประเทศสเปนมาแล้ว โดยกองหน้าชาวไทยรายนี้มีมูลค่าสูงถึง 31 ล้านบาท รวมทั้งยังมีนักเตะดาวเด่นมากมาย แต่น่าเสียดายที่ในฤดูกาลล่าสุดนี้ กิเลนผยองทำได้เพียงจบที่อันดับ 5 ในไทยลีก เข้ารอบ 16 ทีมในเอฟเอคัพ และเข้ารอบ 32 ทีมในลีกคัพ โดยไม่สามารถคว้าถ้วยใดๆ มาครองได้เลย
ทีมฟุตบอลอื่นที่ติดอันดับมีนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จาก 10 ทีมที่มีผู้เล่นราคาแพงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทยลีกของเรามีทีมฟุตบอลติดอันดับท็อปอยู่ถึง 6 ทีมด้วยกัน ซึ่งอีก 4 ทีมได้แก่ ทีมเปอร์ซิบ บันดุง จากอินโดนีเซีย ทีมเปอร์ซิจา จาการ์ตา จากอินโดนีเซีย ทีมบาหลี ยูไนเต็ด จากอินโดนีเซีย และทีมยะโฮร์ดารุลตาซิม จากมาเลเซีย
นักเตะชาวไทยที่ไปค้าแข้งในลีกต่างประเทศ
น่าสังเกตว่า นักเตะมูลค่าสูงในไทยลีกส่วนใหญ่จะเป็นนักเตะชาวต่างชาติ แต่ก็ยังมีนักเตะชาวไทยอีกมากมายที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยม และในปัจจุบันนี้ พวกเขาเหล่านั้นก็ได้ไปค้าแข้งอยู่ในลีกต่างประเทศ เช่น ชนาธิป สรงกระสินธุ์, ธีราทร บุญมาทัน, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, จักรกฤษ ลาภตระกูล และ ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า เมื่อพวกเขาเดินทางไปหาประสบการณ์ที่ลีกต่างประเทศจนมีฝีเท้าจัดจ้านขึ้นกว่าเดิมแล้ว อาจมีทีมในไทยลีกต้องการให้ย้ายกลับมาเล่นในไทยลีกอีกครั้ง และอาจจะทุ่มทุนซื้อ สร้างสถิติค่าตัวสูงสุดขึ้นมาใหม่ได้อีกก็เป็นได้